เปิดลิสต์ 15 อาหารตุรกีต้นตำรับที่ต้องลอง (พร้อมแนะนำร้านระดับพรีเมี่ยม)

สุดยอดเมนูเคบับและเนื้อสัตว์ (The Ultimate Kebabs & Meats)

1. โดเนอร์ เคบับ (Döner Kebab)

ราชาแห่งเคบับที่แท้จริง! โดเนอร์คือเนื้อวัวหรือเนื้อไก่ที่หมักเครื่องเทศแล้วนำมาซ้อนกันเป็นชั้นสูง ย่างช้าๆ บนแกนหมุนแนวตั้ง จนได้เนื้อที่กรอบนอกนุ่มใน ก่อนจะแล่บางๆ เสิร์ฟในขนมปัง, แผ่นแป้ง (Dürüm) หรือทานพร้อมข้าวและสลัด

2. อาดานา / อูร์ฟา เคบับ (Adana / Urfa Kebab)

เคบับเนื้อแกะบดละเอียดที่ปั้นด้วยมือรอบเหล็กเสียบแบนแล้วนำไปย่างบนเตาถ่าน จุดเด่นคือความชุ่มฉ่ำและกลิ่นหอมของเนื้อ โดย อาดานา เคบับ จะมีรสเผ็ดร้อนจากพริกแดงบด ส่วน อูร์ฟา เคบับ จะมีรสชาติกลมกล่อม ไม่เผ็ด เหมาะสำหรับทุกคน

3. อิสเคนเดอร์ เคบับ (İskender Kebap)

เมนูเคบับสุดคลาสสิกจากเมืองบูร์ซา (Bursa) ที่นำเนื้อโดเนอร์เคบับมาวางบนขนมปังพิเดหั่นเต๋า ราดด้วยซอสมะเขือเทศสูตรพิเศษ จากนั้นราดทับด้วยเนยละลายร้อนๆ และเสิร์ฟเคียงคู่กับโยเกิร์ตเนื้อเนียน เป็นการผสมผสานรสชาติและเนื้อสัมผัสที่ซับซ้อนและอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ

4. เคิฟเต้ (Köfte)

ลูกชิ้นเนื้อบดสไตล์ตุรกีที่ไม่ได้มีแค่ทรงกลม แต่มีหลากหลายรูปแบบและรสชาติตามแต่ละภูมิภาค ปรุงรสด้วยเครื่องเทศนานาชนิดแล้วนำไปย่าง, ทอด หรือต้ม เป็นอาหารที่เรียบง่ายแต่อบอุ่นใจ ทานคู่กับข้าว, สลัด หรือขนมปังก็อร่อย

5. เทสติ เคบับ (Testi Kebab)

ประสบการณ์ที่ห้ามพลาดเมื่อไปเยือนคัปปาโดเกีย! เทสติเคบับคือสตูว์เนื้อหรือไก่ที่อบพร้อมกับผักและเครื่องเทศในไหดินเผาที่ปิดสนิท เมื่อจะรับประทาน พนักงานจะนำไหร้อนๆ มาทุบให้แตกต่อหน้าคุณ กลิ่นหอมกรุ่นที่ฟุ้งออกมาจะทำให้คุณประทับใจไม่รู้ลืม

แป้งและอาหารเช้าเลิศรส (Delicious Breads, Pastries & Breakfast)

6. พิเด (Pide)

พิเดมักถูกเรียกว่า "พิซซ่าตุรกี" เป็นแป้งรูปทรงเรือที่อบในเตาหินจนกรอบนอกนุ่มใน มีหน้าให้เลือกหลากหลาย เช่น เนื้อสับ, ชีส, ไข่ หรือไส้กรอกตุรกี (Sucuk) เป็นเมนูที่เหมาะสำหรับทานคนเดียวหรือแบ่งปันกับเพื่อนฝูง

7. ลาห์มาจุน (Lahmacun)

แป้งแผ่นกลมบางกรอบที่ทาหน้าด้วยเนื้อแกะหรือเนื้อวัวสับละเอียดผสมกับมะเขือเทศ, พริก และเครื่องเทศต่างๆ ก่อนนำไปอบในเตาถ่านร้อนๆ วิธีทานแบบต้นตำรับคือบีบมะนาว, โรยด้วยพาร์สลีย์สด แล้วม้วนทานเป็นคำๆ เป็นอาหารจานด่วนที่อร่อยเกินคาด

8. เมเนเมน (Menemen)

เมนูอาหารเช้าสุดคลาสสิกและเป็นที่รักของชาวตุรกี คือไข่กวนที่ปรุงกับมะเขือเทศ, พริกหยวก และหัวหอมจนขลุกขลิก ปรุงรสด้วยเครื่องเทศแล้วเสิร์ฟในกระทะทองแดงสองหู (Sahan) ทานคู่กับขนมปังปิ้งร้อนๆ เพื่อตักซอสและไข่ เป็นการเริ่มต้นวันที่สมบูรณ์แบบ

เมเซ่และซุปอุ่นใจ (Heartwarming Mezes & Soups)

9. เมเซ่ (Meze)

เมเซ่คือหัวใจของวัฒนธรรมการกินดื่มแบบตุรกี เป็นชุดออเดิร์ฟหลากหลายชนิดที่เสิร์ฟมาในจานเล็กๆ เพื่อเริ่มต้นมื้ออาหาร มีตั้งแต่ฮัมมูส (Hummus), สลัดมะเขือเทศรสจัดจ้าน (Ezme), โยเกิร์ตผสมแตงกวาและมินต์ (Haydari) ไปจนถึงมะเขือม่วงบด (Patlıcan Salatası) การสั่งเมเซ่หลายๆ อย่างมาแบ่งกันทานคือความสุขอย่างแท้จริง

10. ซุปถั่วเลนทิล (Mercimek Çorbası)

ซุปถั่วเลนทิลสีเหลืองทองเนื้อเนียนนุ่ม เป็นซุปที่พบได้ในทุกร้านอาหารและทุกครัวเรือนในตุรกี ปรุงรสอย่างเรียบง่าย บีบมะนาวเล็กน้อยและโรยพริกป่นก่อนทาน เป็นเมนูที่ให้ความอบอุ่นและปลอบประโลมจิตใจได้ดีที่สุด

ของหวานและเครื่องดื่มปิดท้ายมื้ออาหาร (Iconic Desserts & Drinks)

11. บาคลาวา (Baklava)

ขนมหวานที่โด่งดังที่สุดของตุรกี ทำจากแป้งฟิลโล่ (Phyllo) บางเฉียบหลายสิบชั้น สอดไส้ด้วยถั่วพิสตาชิโอ, วอลนัท หรือเฮเซลนัทบด อบจนเป็นสีทองสวยงามแล้วราดด้วยน้ำเชื่อมหรือน้ำผึ้งจนชุ่มฉ่ำ รสชาติหวานหอมและเนื้อสัมผัสที่กรอบร่วนจะทำให้คุณติดใจ

12. คูเนเฟ่ (Künefe)

ของหวานที่ต้องทานตอนร้อนๆ เท่านั้น! คูเนเฟ่ทำจากเส้นแป้งฝอย (Kadayıf) สอดไส้ด้วยชีสที่ไม่เค็ม นำไปอบในถาดทองเหลืองจนกรอบเกรียม ราดด้วยน้ำเชื่อมร้อนๆ และโรยหน้าด้วยถั่วพิสตาชิโอ ความกรอบของแป้ง ความยืดของชีส และความหวานของน้ำเชื่อมคือส่วนผสมที่ลงตัวอย่างสมบูรณ์แบบ

13. เตอร์กิช ดีไลท์ (Lokum)

ขนมหวานเนื้อนุ่มหนึบที่ทำจากแป้งและน้ำตาล เป็นของฝากยอดนิยม มีให้เลือกหลากหลายรสชาติ ตั้งแต่รสกุหลาบ, มะนาว, มินต์ ไปจนถึงรสที่ผสมถั่วต่างๆ เช่น พิสตาชิโอหรือเฮเซลนัท คลุกด้วยน้ำตาลไอซิ่งหรือมะพร้าวแห้งก่อนเสิร์ฟ

14. ชาตุรกี (Çay)

ไม่ใช่แคเครื่องดื่ม แต่คือสัญลักษณ์ของมิตรภาพและการต้อนรับ ชาดำที่ชงอย่างเข้มข้นจะถูกเสิร์ฟในแก้วทรงทิวลิปขนาดเล็ก เป็นเครื่องดื่มที่ชาวตุรกีดื่มกันตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และมักจะถูกเสนอให้แขกผู้มาเยือนเสมอ

15. กาแฟตุรกี (Türk Kahvesi)

วิธีการชงกาแฟที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของ UNESCO เป็นกาแฟที่ไม่ผ่านการกรอง ต้มในหม้อทองแดงเล็กๆ ที่เรียกว่า "Cezve" จนเกิดฟองหนานุ่ม เสิร์ฟในถ้วยเล็กๆ พร้อมกากกาแฟที่นอนก้นอยู่ เป็นการปิดท้ายมื้ออาหารที่สมบูรณ์แบบ